Cloud คืออะไร ต้องใช้ไหม แพงไหมอ่ะ
สวัสดีครับ ทุกวันนี้ใครไม่พูดถึง Cloud ก็ดูจะเฉยเต็มที่ จริงๆ Cloud นั้นถูกพูดถึงมาหลายปีมากล่ะ แล้วจริงๆเราก็ใช้ Cloud กันมานานแล้วตั้งแต่การใช้อีเมล์เช่น Yahoo , Hotmail , GMail พวกนี้ล้วนเป็น Cloud ทั้งสิ้น เพราะเราไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน เรารู้แต่ว่าเราใช้ Service ของพวกนี้อยู่
เราใช้ Cloud โดยไม่รู้ตัว
แต่ทุกวันนี้ Cloud นั้นใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ อาทิเช่น คุณใช้ iPhone แต่เมื่อคุณใช้ iPad ทุกอย่างบน iPhone คุณไปอยู่บน iPad Auto หรือแม้การเปลี่ยนโทรศัพท์เพียง Login iCloud ทุกอย่างก็กลับมาหมด อย่างนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ
แต่สำหรับเราในฐานะมนุษย์โลกคนหนึ่ง เราคงไม่ค่อยจ่ายเงินให้กับ Cloud เท่าไร เพราะธุรกิจต่างๆมักจะมาตอบสนองเราเอง iCloud ก็ฟรี E-Mail ต่างๆก็ฟรี แต่ก็คอยมาตอดเงินเราไปได้บ้างจากการใช้มากมาย ใช้ไม่เพียงพอของเรา แต่สำหรับธุรกิจล่ะ ตอนนี้ Cloud นั้นรุกหนักในธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ สมัยเดิม ธุรกิจจะใช้ Software อะไรก็ต้องซื้อแผ่น ได้ Key มาก็ใส่ ใส่ ใส่ องค์กรมี Software ต่างๆมากมาย ก็ต้องซื้อมาลง Server
Software อนาคตอยู่แต่บน Cloud
Server ถูกซื้อแต่ละปีจำนวนมาก เพื่อลง Software สำหรับธุรกิจ แต่ตอนนี้ก็มี Virtualization ทำให้ Server นั้นก็ใช้น้อยลง เพื่อประหยัดพลังงาน แต่เทรนที่กำลัไปในอนาคตคือ Software ต่างๆที่อยู่บน Server , PC จะเริ่มมาลงบน Cloud หมดแล้วเพื่อให้เราใช้บริการ อาทิเช่น สิ่งที่เราเห็นได้ในประเทศพัฒนาแล้วอย่างอเมริกา จะพบว่า Software ใหญ่ๆ ในโลกธุรกิจก็ลง Cloud ผม แม้กระทั้ง SAP ก็ยังลง Cloud ให้บริการ
เมื่อยักษ์ใหญ่เริ่มขยับลง Cloud
ตอนนี้สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเลยก็คงเป็น ตระกูล Microsoft ที่ได้ผนวกเอา Mail Server อย่าง Microsoft Exchange และ Microsoft Office มาลง Cloud รวมไปถึง Microsoft Lync ที่แสนจะแพงเหลือหลาย ปรกติ License อย่างเดียวปาเข้าไปหลายแสน ก็เอามาลง Cloud ถูกรวมกันเรียกว่า Microsoft Office 365
คนไทยพร้อมยังกับ Cloud
คำถามที่ัมักถูกถามคือ องค์กรอย่างเราๆ อย่างคนไทยเนียะ จะใช้ดีไหม สิ่งที่บริษัทในไทยนั้นมักกลัวก็คือ ค่าใช้จ่าย Fix หรือเรียกว่า Fix Cost หรืออะไรที่เป็นรายเดือนนี่แหละ ส่วนใหญ่จะหวาดกลัวกัน แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ อะไรที่เขาซื้อประจำ จริงๆมันก็คือรายเดือน แต่มันเป็นรายเดือนที่ซ่อนอยู่ เช่น Server 1 ตัวราคา 36,000 บาท มีอายุ 3 ปี ต้องเปลี่ยนก็คือ เดือนละ 1,000 บาท รวมกับค่า IT ดูแลเงินเดือนอีกกี่หมื่น ก็บวกไป นั้นแหละ Fix Cost ที่ซ่อนอยู่
คำถามก็คือ Cloud มันดีต่อองค์กรอย่างไร เนื่องจาก eLife เราเองเป็นองค์กรหนึ่งที่ใช้ Cloud ทั้งองค์กร แต่ก็มี Server ภายในนะ แต่น้อยมาก ก็เลยอยากเล่าให้ฟังว่า สมัยน้ำท่วม บริษัทเราก็แยกย้ายกันทำงานที่บ้านได้ เพราะทุกอย่างของบริษัทอยู่ใน Cloud แม้กระทั้งตอนนี้ โทรศัพท์ที่ Office ก็เสมือน Cloud เพราะว่าเบอร์ต่อของแต่ละคน ก็อยู่ติดตัวไปทุกที่ ที่มี Internet
ประโยชน์ที่เราได้รับผ่าน Cloud
เราไม่ต้องลงทุนกับ Server , Storage , HA รวมไปถึง IT ระดับ Special List ผมเล่าง่ายๆล่ะกันครับ หากคุณต้องการ E-Mail Server สักตัวนึงในบริษัทคุณ คุณต้องซื้อ Server สำหรับมัน ซื้อ Harddisk สำหรับมัน แล้วก็ซื้อ License ให้ัตัวมันเอง พอคุณใช้ไปสักปีสองปี ความกังวลจะเริ่มมาเยือนเมื่อมันเริ่มรวนๆ ก็จะต้องซื้อ Server อีกตัวเพื่อทำ HA ป้องกันมันพัง ต่อมาคุณต้องมี IT Speciallist ด้าน Exchange มาดูแลมัน ไม่งั้นมันก็จะอาจจะทำให้ธุรกิจเสียหาย คนพวกนี้ก็คงมีเงินเดือนสัก 3-5 หมื่น สุดท้ายเงินที่เราต้องลงไปกับระบบ Mail Server นี้ ครั้งแรกคงหลายแสน ระยะยาวก็หนักที่ IT Support ปีนึงอาจจะครึ่งล้านได้
Internet พร้อมคุณก็พร้อมกับ Cloud
แต่กับ Cloud สิ่งที่คุณต้องลงทุนก็คือ Internet ซึ่งก็มีอยู่แล้ว แต่อาจจะทำให้มันดีมากขึ้นเพื่อทำ Reduntdant แล้ว Internet ทุกวันนี้ก็ถูกลงเรื่อยๆ นับวันยิ่งถูกลง บริษัทผมใช้ Internet 3 ค่าย ทำ Load Balance กัน เพราะเมื่อ Internet พัง เราทำงานกันไม่ได้ทันที แต่มันก็น้อยมากที่ 3 เจ้าจะพังพร้อมกัน แต่เราก็ไม่เคยขาดการสื่อสารเพราะอีเมล์เราเช็คผ่านมือถือได้
ราคา ตัวแปลสำคัญ
แล้วมันแพงไหม สำหรับ Cloud คำถามนี้มักจะถูกถามต่อมา ทุกวันนี้ Cloud ถูกลงเรื่อยๆ อันจะดูได้จาก ง่ายๆ Microsoft Office 365 ราคาตก 400 บาท/1 คน /1 เดือน นี่คือค่าตัวพนักงานคุณที่คุณจะลงทุนให้เขากับ Microsoft Office , Mail Server Exchange , Microsoft Lync รวมไปถึง OneDrive , File Share แล้วถามหน่อยว่าคุ้มไหม ถ้าถามแค่ Microsoft Office ถ้าคุณซื้อ License แบบครั้งเดียวก็ 4 พันกว่าบาท ก็อาจจะเพิ่ม Question ว่าอ้าว คุ้มปีเดียว ปีต่อไปแพงแล้วสิงั้น ไม่ใช่ล่ะครับ ถ้าคุณนับไปถึง Exchange 50GB ที่ได้รับ มันจะคุ้มขึ้นมาทันที เพราะนั้นหมายถึงว่า เราเสียเงินค่า E-mail เพียง 8 บาท/GB/เดือน นับงัน้ก็ไม่ถูกเพราะมี File Share , OneDrive อีก ผมว่ามันเป็นการควบคุม Cost ขององค์กรที่ชะงักที่สุด เพราะมันคือชัดเจนว่า 1 คน 400 บาท หากคนนี้ออกไป เราก็ไม่ต้องต่ออายุ ก็อยู่ที่ว่าคน 1 คนในองค์กร ทำงานได้มีค่ามากกว่า 400 บาท/เดือนหรือไม่ คำตอบคือ มันมากกว่าแน่นอน
ปัญหาปวดหัวของเราต่อ Server ต่อระบบก็จะน้อยลง เป็นการ Outsource ระบบที่สมบูรณ์แบบ แล้วพื้นที่ที่ได้รับมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ แม้เราจ่ายเท่าเดิม เพราะเท่าที่ดูเทรน Cloud แต่ละที่จะแข่งชันกัน เรื่อยๆ ดังนั้นเขาจะเพิ่มพื้นที่ให้เราเอง โดยไม่ขึ้นราคา แต่กับถ้าเราลงทุน Hardware เรามีคน 10 คน ก็ต้องมี 500GB ล่ะ 20 คน ก็ 1TB แล้วหากต้องการ Performance สูงๆ 1TB SAS Disk ก็ราคาไม่ใช่ถูกๆ ทำ RAID อีกก็ยิ่งไปกันใหญ่
แต่ผมไม่ได้บอกว่าคุณจะต้องไป Cloud ทั้งหมด เพราะอย่างไรระบบ Cloud ก็ยังไม่สมบูรณ์ขนาดมีทุก Software ตอบโจทย์ให้กับเรา เรายังมี Software บัญชี Software ภายใน ที่เรายังต้องใช้งานอยู่ แต่ผมเชื่อว่าอนาคตอันใกล้นี้ Software พวกนี้จะลง Cloud ไปเรื่อยๆ ทีละตัวสองตัว
ดังนั้นTrend สำหรับ 2016 ปีนี้ ทุกค่ายยักษ์ใหญ่ยังคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันคือ Hybrid Cloud นั้นคือ ทำงานระหว่างภายในองค์กร กับ Cloud ข้างนอก เพื่อให้ระบบเสถียรภาพ แล้วก็ไม่มีปัญหา
ทีนี้ก็อยู่ที่คุณจะพิจารณาว่า คุณพร้อมที่จะไป Cloud เมื่อไร คุณพร้อมที่จะสลัดเรื่องยุ่งๆ IT ภายใน Office ออกไปให้มืออาชีพเมื่อไร คุณจะไปก่อน หรือ รอให้คู่แข่งไปก่อน
คุณเท่านั้นที่จะตอบได้ว่า