Microsoft Office 2016 License แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร
Microsoft Office นั้นเป็นที่ได้รับความนิยม แต่ก็อีกอย่างน้นแหละ ก็ประกอบไปด้วย License หลากหลายประเภทที่วุ่นวายไม่แพ้ Windows 10 เรามาดูกันว่า Office แต่ละประเภทต่างกันยังไง และราคาคร่าวๆกัน เพื่อเราจะได้ซื้อ Office ได้อย่างถูกต้อง
ประเภท Microsoft Office License?
- Office Home & Student : (ส่วนตัว,นักเรียน)
มีให้คือ Word,Excel,PowerPoint,OneNote มาเป็นกล่อง แต่ไม่มี DVD ให้ แบบนี้จะเป็นกล่องๆ ใช้ในธูรกิจไม่ได้ ตามชื่อของมันเลยคือ ใช้ส่วนตัว ดังนั้นหากท่านมี Notebook ส่วนตัวไปใช้ในบริษัทก็ซื้อได้เช่นกัน แต่ห้าม Join AD เพราะการ Join AD ถือว่ามาใช้ในธุรกิจ แม้จะซื้อด้วยเงินตัวเองก็ตาม และไม่ได้เป็น Asset บริษัท - Office Home & Business FPP (for Mac or for PC) : (ส่วนตัวและธุรกิจ)
มีให้คือ Word,Excel,PowerPoint,OneNote และ Outlook ไม่มี Microsoft Access มาเป็นกล่องไม่มีแผ่น + สร้าง Key ได้ผ่านอีเมล์ Hotmail , Outlook จะ Activate ได้ 25 กล่อง/E-Mail เท่านั้น แต่ License จะติดกับกล่อง + ใบเสร็จ ส่วน Key จะติดกับ E-Mail ดังนั้นต้องระวังการใช้อีเมล์พนักงาน หรือ อีเมล์ที่ไม่ใช่เจ้าของบริษัทในการ Activate สามารถย้ายเครื่องได้ เข้าไปใน office.com จะมีให้ Deactivate เครื่องที่ลงได้ หากใช้อีเมล์บริษัทในการ Activate License จะได้แค่ 1 กล่องเท่านั้น
ลิขสิทธิเกิดขึ้นเมื่อทำการติดตั้ง ถือไว้เฉยๆ ถือว่ายังไม่เกิดขึ้น Downgrade ไม่ได้ซื้อ version อะไรไปก็ต้องลงใช้ Version นั้น ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนคอมอีกกี่รอบก็ย้ายไปใช้ได้ แต่คำว่าย้ายเครื่องได้ ไม่ใช่ว่าจะไปลงกี่เครือ่งก็ได้นะครับ ตามกฎหมายแล้ว 1 กล่อง = 1 เครื่องเท่านั้น ราคาประมาณ 7-9 พันแล้วแต่ร้านจะนำมาลดราคา
ย้ำอีกครั้ง ลิขสิทธิประเภทนี้ มี 2 ส่วน 1 คือ ลิขสิทธิ์ คือ กล่อง + ใบเสร็จ 2. Key ติดกับอีเมล์ ดังนั้นควร Activate ที่อีเมล์ที่วางใจว่าจะไม่เปลี่ยน ไม่ย้ายบริษัท ดังนั้นหากพนักงานลาออกเอา Key ไปด้วยองค์กรอาจจะเหลือแต่ลิขสิทธิ แต่ไม่เหลือ Key ให้ใช้งาน - Office Standard/Pro Plus Open : (ธุรกิจ)
Word,Excel,PowerPoint,OneNote และ Outlook ถ้าต้องการ Microsoft Access ก็ต้องซื้อ Pro Plus มาเป็น License ไม่มีกล่อง แบบนี้เป็นแบบเดียวที่สามารถ Downgrade ได้ สำหรับองค์กรที่ใช้งาน Office 2010 , 2013 หรือเก่ากว่านั้น แต่ต้องการซื้อให้ถูกต้อง ก็ต้องซื้อแบบ Open License
อีกกลุ่มนึงคือ กลุ่ม IT ที่ต้องการใช้ 1 Key ลงทุกเครื่องก็ต้องใช้แบบนี้เช่นกัน เพราะแบบกล่องก็จะกล่องละ Key ไม่สามารถลงทุกเครื่องได้พร้อมกัน และแบบ Standard ก็จะมีฟีเจอร์ด้านธุรกิจเพิ่มเติมเข้ามาเพิ่มเติม ราคาประมาณ 12,xxx โดยประมาณ ตามค่าเงินบาท สำหรับต้องการ Access ด้วยก็ 17,xxx บาท - Office 365 : (ส่วนตัว,ธุรกิจ) เป็น Office Version เช่าใช้ จ่ายรายปี แบ่งแยกออกเป็น 3 ตัวหลักๆ
- Office 365 Home (ห้ามใช้ในธุรกิจ)
มาเป็นกล่อง แต่ไม่มี DVD ให้ ได้ครบทั้ง Word,Excel, Powerpoint, OneNote, Outlook, Publisher, Access อันนี้ใช้ได้ 5 เครื่องในบ้านเดียวกัน ก็จะมี 1TB OneDrive ให้ ได้ Office Offline ราคาประมาณ 2,490 บาท/ปี - Office 365 Personal (ห้ามใช้ในธุรกิจ)
มาเป็นกล่อง แต่ไม่มี DVD ให้ ได้ครบทั้ง Word,Excel, Powerpoint, OneNote, Outlook, Publisher, Access ใช้ส่วนตัว 1 คน ก็จะมี 1TB OneDrive ให้ ได้ Office Offline ราคาประมาณ 1,890 บาท/ปี - Office 365 Business (สำหรับธุรกิจ)
มาเป็น License ใช้ได้ 1 คนในองค์กร แต่จะมีหลาย Package ตามฟีเจอร์ที่ใช้งาน ก็จะมีเช่น OneDrive , Exchange Online, Yammer , Microsoft Office Offline หรือ Online ราคาก็เริ่มตั้งแต่ 1,550 บาท/ปี ได้ Exchange อย่างเดียว หรือ 2,220 บาท/ปี ได้ Exchange + OneDrive หรือ 3,600 บาท/ปี ได้ Office Offline + OneDrive เป็นต้น หรือ หากต้องการทั้ง Exchange + OneDrive + Office ด้วยก็ 5,400 บาท/ปี
- Office 365 Home (ห้ามใช้ในธุรกิจ)
สำหรับหน่วยงานราชการ องค์กรการกุศล โรงเรียน มหาวิทยาลัย มีสิทธิ์ซื้อลิขสิทธิ Open ได้ในราคาพิเศษสุดๆ ก็ไม่ต้องซื้อตามประเภทด้านบนที่แพงๆ อันนั้นสำหรับเอกชน
สำหรับผู้ที่สนใจ Office แบบถูกต้องสามารถปรึกษาได้ที่ 02-118-6767 LINE ID : 2beshop.com หรือคลิก